วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

เครื่องทำน้ำอุ่น เลือกซื้ออย่างไร ยี่ห้อไหนดี อ่านง่าย 5 นาทีจบ


เครื่องทำน้ำอุ่น เลือกซื้ออย่างไร ยี่ห้อไหนดี อ่านง่าย 5 นาทีจบ

          เครื่องทำน้ำอุ่นเป็นสุดยอดเครื่องไฟฟ้าที่มีประโยชน์มากๆ โดยเฉพาะในฤดูหนาว การอาบน้ำเย็นท่ามกลางอากาศหนาวเป็นอะไรที่รู้สึกทรมานอย่างยิ่ง เครื่องทำน้ำอุ่นก็เลยมีความจำเป็นโดยเฉพาะกับคนที่ต้องใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบคงไม่มีเวลามานั่งต้มน้ำเหมือนในอดีตอีกแล้ว
          แต่หลายคนก็อาจจะยังสงสัยอยู่ว่า จะเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นแบบไหนดี แต่ละเครื่องมันแตกต่างกันอย่างไร บทความนี้บุญถาวรจะมาแชร์วิธีการเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นแบบเข้าใจง่ายที่คุณสามารถอ่านทำความเข้าใจได้ไม่ยาก โดยเฉพาะสำหรับท่านที่กำลังเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นอยู่สามารถนำเอาเนื้อหาที่อยู่ในบทความนี้ไปประยุกต์ใช้กับการเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นได้เลย
          เครื่องทำน้ำอุ่นไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น แต่การอาบน้ำอุ่นยังสามารถอาบได้ทั้งปี สำหรับคนที่ชอบความผ่อนคลายหลังเลิกงาน การได้อาบน้ำอุ่นตอนหัวค่ำเป็นเหมือนการพักผ่อนจากชีวิตอันหนักหน่วงในแต่ละวัน ช่วยให้รู้สึกสบายเนื้อสบายตัว จนทำให้หลายคนติดการอาบน้ำอุ่นไปเลยทีเดียว  


หัวข้อถัดไปเป็นการเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นแบบง่ายที่ใครก็สามารถทำได้

การเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่น

          ปัจจัยแรกในการเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นก็คือ กำลังไฟของเครื่องทำน้ำอุ่น ยิ่งมีกำลังไฟมากก็จะสามารถเปลี่ยนน้ำให้ร้อนได้เร็วและร้อนจริง เครื่องทำน้ำอุ่นที่มีกำลังไฟน้อย อาจจะทำให้น้ำร้อนช้าหรือน้ำไม่ร้อน เวลาอาบแล้วไม่รู้สึกอุ่น ถ้าเป็นบ้านที่ตั้งอยู่ในภาคเหนือ หรือบ้านตั้งอยู่เป็นที่สูง บนเขา ที่มีอากาศหนาว ยิ่งต้องเลือกเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีปริมาณวัตต์สูงๆ เพราะมีกำลังไฟมากพอที่จะเปลี่ยนเย็นให้กลายเป็นน้ำอุ่น อากาศหนาวมากๆ ก็ต้องใช้เครื่องทำน้ำอุ่นที่มีกำลังไฟฟ้ามากตามไปด้วย
          แต่ไม่ได้หมายความว่าการเลือกเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีกำลังไฟสูงๆ จะดีเสมอไป เพราะเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีกำลังไฟสูงๆ ก็จะทำให้กินไฟมากขึ้นตามไปด้วย และยังต้องตรวจสอบอีกด้วยว่ามิเตอร์ไฟที่ติดตั้งอยู่ในบ้านของคุณรองรับการใช้กำลังไฟได้มากน้อยแค่ไหน ในบางครั้งถ้าซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีกำลังไฟมากๆ ก็จริง แต่มิเตอร์ไฟไม่รองรับก็ไม่สามารถใช้งานได้เช่นกัน 

          อีกหนึ่งปัจจัยในการเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่น ก็คือความสามารถในการประหยัดไฟ ให้คุณเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ซึ่งแสดงว่าเครื่องทำน้ำอุ่นนี้มีความประหยัดไฟ ไม่กินไฟสูง เพราะโดยปกติแล้วเครื่องทำน้ำอุ่นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมาก ยิ่งถ้ามีการเปิดใช้ทุกวัน วันละหลายๆ รอบก็จะยิ่งกินค่าไฟไปอีกเยอะมาก จึงควรเลือกซื้อรุ่นที่มีการประหยัดพลังงานไฟ จะช่วยลดค่าไฟได้เป็นอย่างมาก

ปัจจัยต่อมาคือความแรงของน้ำที่ไหลออกมาจากเครื่องทำน้ำอุ่น และมันสำคัญมาก ต่อการใช้งานเครื่องทำน้ำอุ่นด้วย หลายคนอาจจะเคยมีประสบการณ์อาบน้ำผ่านเครื่องทำน้ำอุ่นแล้วน้ำไหลเบา แต่พอเปิดน้ำจากฝักบัวที่ไม่ได้ผ่านเครื่องทำน้ำอุ่น ปรากฏว่าน้ำไหลได้แรง นี่ก็เป็นเพราะความแรงของน้ำไม่เท่ากัน

          ยิ่งน้ำไหลได้แรง ไหลได้เยอะ ก็จะยิ่งทำให้อาบน้ำได้เต็มที่มากยิ่งขึ้น แต่ถ้าน้ำไหลออกมาเบา ไหลออกมานิดเดียว ก็จะเกิดความรำคาญในระหว่างการอาบน้ำได้ จึงควรเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีท่อน้ำเข้าและท่อน้ำออกขนาดใหญ่เพื่อให้น้ำสามารถไหลผ่านได้ในปริมาณมาก

ความปลอดภัยสำคัญที่สุด

          สิ่งที่สำคัญที่สุดของการเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นก็คือ ความปลอดภัย อย่างที่เรารู้กันดีว่าน้ำกับไฟฟ้าเป็นของที่ไม่ควรอยู่ด้วยกัน ซึ่งการทำงานของเครื่องทำน้ำอุ่นคือการใช้พลังงานไฟฟ้ามาเปลี่ยนน้ำให้มีความร้อน ดังนั้นจึงมีความอันตรายสูงมาก มีโอกาสที่จะเกิดไฟรั่ว ไฟช๊อต และสร้างอันตรายถึงชีวิตแก่ผู้ใช้งานได้ ระบบการรักษาความปลอดภัยของเครื่องทำน้ำอุ่นจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง การติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นควรมีการติดตั้งสายดินควบคู่ไปด้วย นอกจากนี้ในปัจจุบันเครื่องทำน้ำอุ่นหลายๆ ตัวมีเทคโนโลยีตัดไฟอัตโนมัติ คือ ELSD หรือ ELCB ให้เลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีระบบตัดไฟ 2 ระบบนี้ หรือถ้ามีเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น ตัดไฟเมื่อเกิดความร้อนสูงเกินไป, ระบบกันน้ำเข้าเครื่อง ก็จะยิ่งดีมาก ถึงแม้ว่าอาจจะทำให้ราคาสูงขึ้นบ้างแต่ก็คุ้มค่าอย่างมากสำหรับความปลอดภัยที่ได้รับ


เครื่องทำน้ำอุ่นยี่ห้อไหนดี

          หนึ่งในคำถามที่หลายคนมักจะถามอยู่เสมอเวลาเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นก็คือ “ซื้อแบรนด์ไหนดี?” เพราะในตลาดมีเครื่องทำน้ำอุ่นให้เลือกซื้ออย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็น Sharp, Panasonic, Toshiba, Haier และแบรนด์อื่นๆ อีกมากมายที่ล้วนแล้วแต่มีประสิทธิภาพและมีเทคโนโลยีในการป้องกันไฟรั่ว ไฟช๊อตด้วยกันทั้งนั้น
          คงไม่ฟันธงว่าแบรนด์ไหนดีกว่ากัน แต่หลักการสำคัญคือให้เลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีมาตรฐาน มีการรับรองจากหน่วยงานต่างๆ มีการรับประกัน มีบริการหลังการขายที่ดี และเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้มั่นใจได้แล้วว่าคุณจะได้รับเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีคุณภาพ สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย







ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก www.boonthavorn.com ด้วยคะ


ความลับที่ช่างแอร์ไม่เคยบอก


บ้านไหนเจอปัญหาเหล่านี้บ้าง อาการแอร์ไม่เย็น ทั้งๆที่เพิ่งจะซื้อมาใช้ มีแต่ลมออกเหมือนพัดลมธรรมดา ๆ ออกมาจากช่องแอร์ พัดลมคอมเพรสเซอร์ทำงานปกติ แต่มีเสียงหึ่ง ๆ เป็นช่วง ๆ ลองดูประสบการณ์ตรงจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Niwat Eamkyo" ที่เคยประสบกับปัญหานี้มาก่อน ซึ่งก็นับว่าใช้ได้ผล และประหยัดเงินไปได้มาก โดยมีข้อมูลดังนี้ 

เหยื่อ...หน้าร้อน !!!...นานา สาระ รู้ไว้ใช่ว่า...จะเรียกว่าค่าโง่หรือค่าครูดี !!! อาการแบบนี้เคยเกิดขึ้นแล้วหนึ่งครั้ง เคยเรียกช่างมาซ่อมเปลี่ยนอะไหล่ที่มีชื่อว่า Capacitor (คาพาซิเตอร์)ไป 1800 บาท แอร์ก็กลับเย็นเหมือนเดิม คอมเพรสเซอร์ทำงานปกติ !!! ดีจัง แต่คราวนี้เมื่ออาการเดิมกำเริบวิญญาณแม็กกายเวอร์เข้าสิง อารมณ์อยากซ่อมเอง เพราะเคยเห็นช่างซ่อมแค่ถอดไอ้เจ้าแท่งทรงกระบอกแบบสีเงินในรูปออก แล้วเอาของใหม่ใส่เข้าไปก็ใช้ได้ แท่งสีเงินเรียกว่า Capacitor หรือ เรียกสั้น ๆ ว่าแคปรัน

เริ่มจากหาข้อมูลของเจ้า Capacitor ว่ามีที่ไหนขายบ้าง ถอดซ่อมยากหรือไม่ มีร้านขายใกล้บ้านด้วย


มั่นใจปุ๊บก็ลงมือปั๊บ (ทุกขั้นตอนก่อนซ่อมต้องตัดกระแสไฟไม่ให้เข้าระบบแอร์ก่อน) ปิดระบบไฟของแอร์ให้เรียบร้อย เช่นเบรกเกอร์ที่ต่ออยู่กับเครื่องปรับอากาศ หากมีคนอยู่ในบ้านหลายคนเพื่อลดความเสี่ยงอาจจะต้องปิดไฟทั้งบ้านแล้วแจ้งให้ทุกคนทราบว่าจะมีการซ่อมแอร์ ห้ามเปิดไฟ


– ถอดหน้ากาก คอมเพรสเซอร์ แอร์ หาตำแหน่ง Capacitor

– ถ่ายรูปตำแหน่งสายไฟที่เชื่อมต่อขั้ว แคปรัน เก็บไว้ดูกันลืม

– ถอดแคปรันหรือ Capacitor ออกเอาไปเป็นตัวอย่างให้ร้านดู


ถึงกับต้องร้อง OMG !!! เมื่อรู้ว่าแบบที่ช่างเปลี่ยนให้คราวที่แล้วเป๊ะ ของผลิตจากจีนราคาส่งแค่ 60-70 บาท ร้านขายอะไหล่แอร์แถว ๆ บ้านก็ 100 กว่าบาท




ปล.เจ้าของร้านบอกของจีนใช้ไม่นานก็ต้องเปลี่ยน ไม่ถึงปีหรอก แล้วเราจ่ายค่าอะไรไป 1800 บาท คราวนี้เลยได้อะไหล่จากญี่ปุ่นไปมาแค่ 240 บาท ใช้ได้หลายปีอาเฮียบอก ได้อะไหล่กลับบ้านมาพร้อม

คำถามมากมายว่า 1800 ค่าอะไร

– นำ Capacitor ตัวใหม่ที่ได้มาใส่กลับตำแหน่งเดิม ดูรูปที่ถ่ายไว้อีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

– ลองเปิดแอร์ดู ว้าววววเย็นฉ่ำเหมือนเดิม ง่ายมั๊ย



ปล. ทุกขั้นตอนก่อนซ่อมต้องตัดกระแสไฟไม่ให้เข้าระบบแอร์ก่อนทุกขั้นตอนเลยแล้วควรจะเรียกเงิน 1,800 บาทที่จ่ายไปคราวที่แล้วว่า เป็นค่าโง่หรือค่าครูดี !!!

รู้แบบนี้กันแล้ว ลองนำวิธีที่เรานำเสนอให้ในวันนี้ลองไปใช้กันดูนะ เพราะทำเองได้ง่ายๆ แถมยังไม่ต้องเสียเงินมากมายที่จะให้ช่างมาทำด้วย และสามรถแชร์ให้เป็นประโยชน์กับคนอื่นๆได้อีกด้วย

ขอบคุณที่มา : https://www.share-si.com

สามารถติดต่อทางร้านได้ทุกช่องทางต่อไปนี้คะ

โทรศัพท์ : 055641833, 055642168 แฟกซ์ : 055623698

เพจเฟซบุ๊ค : www.facebook.com/newlandsawankhalok/

ไลน์แอด : http://line.me/ti/p/%40cwb7640b

ร้านเปิดทุกวัน 8:00น. - 18:30น. ยินดีให้บริการคร้า